ชาดกสังขปาล ว่าด้วยการบำเพ็ญขันติบารมี

ชาดกสังขปาล ว่าด้วยการบำเพ็ญขันติบารมี

พญาสังขปาลนาคราชยึดมั่นในศีลธรรม แม้จะถูกทำร้ายก็ไม่ตอบโต้เพราะกลัวว่าศีลจะเสีย ขณะที่อาฬารดาบสแสดงความเมตตาและกล้าหาญในการช่วยนาคราช และเลือกทางธรรมแทนการยึดติดในสมบัติของนาคพิภพ ทั้งสองตัวละครสะท้อนให้เห็นว่าความยิ่งใหญ่แท้จริงอยู่ที่การควบคุมตนเอง การเสียสละ และการยึดมั่นในธรรม ซึ่งนำพาสู่ความสุขและความสงบในชีวิต

202 อ่าน
อ่านเรื่องเต็ม
ในอดีตกาล ณ พระนครราชคฤห์ พระเจ้าแผ่นดินมคธทรงครองราชสมบัติอย่างมั่นคง ทรงมีพระโอรสองค์หนึ่งนามว่า "ทุยโยธนกุมาร" ซึ่งเติบโตขึ้นพร้อมการศึกษาในเมืองตักกศิลา เมื่อพระกุมารทรงสำเร็จการศึกษาแล้ว กลับมาถวายความรู้แด่พระราชบิดา พระราชาบิดาปลาบปลื้มในพระปรีชาของพระโอรส จึงทรงแต่งตั้งทุยโยธนกุมารขึ้นเป็นผู้สืบราชบัลลังก์ และทรงผนวชเป็นพระฤๅษีในพระราชอุทยาน
พระโพธิสัตว์ทรงกตัญญูเสด็จเยี่ยมพระราชบิดาวันละสามครั้ง ความเคารพรักที่พระโพธิสัตว์มีต่อพระบิดาทำให้ลาภสักการะบังเกิดขึ้นแก่พระฤๅษีอย่างมาก พระฤๅษีจึงกังวลว่า “ลาภสักการะที่มากมายทำให้ข้าพเจ้ามิอาจบำเพ็ญธรรมได้อย่างสงบ” พระองค์จึงตัดสินใจละทิ้งอุทยานไปโดยมิแจ้งให้พระโอรสทราบ มุ่งหน้าสู่บรรพตจันทก และสร้างบรรณศาลาเล็ก ๆ เพื่อบำเพ็ญธรรมต่อไป
วันหนึ่ง ขณะที่พระฤๅษีกำลังบำเพ็ญธรรมอยู่ พญาสังขปาลนาคราช นำบริวารของตนมานมัสการพระฤๅษี พญานาคราชนั้นเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในนาคพิภพ แต่กลับมีจิตเลื่อมใสในธรรม
พญานาคราช
พญานาคราช

ข้าแต่พระคุณเจ้า ผู้มีปัญญาล้ำเลิศ ข้าพเจ้ารู้สึกถึงความสงบเมื่อได้ฟังธรรมจากท่าน การที่ข้าพเจ้ามีฤทธิ์และสมบัติมากมายในนาคพิภพก็ไม่อาจทำให้ข้าพเจ้าเปี่ยมสุขได้เช่นนี้

พระฤๅษี
พระฤๅษี

ธรรมย่อมช่วยปลดเปลื้องความทุกข์ของทุกผู้ทุกนาม ไม่ว่าท่านจะเป็นผู้มีอำนาจมากน้อยเพียงใด แต่หากไม่ตั้งอยู่ในธรรม ท่านจะไม่พบความสงบที่แท้จริง

พญานาคราชฟังแล้วรู้สึกสำนึกในคุณค่าของธรรมมากขึ้น ท่านจึงตั้งใจปฏิบัติตามคำสอนของพระฤๅษีทุกประการ
หลายปีผ่านไป พระราชาโอรสทุยโยธนกุมารทรงรู้สึกว่าพระบิดาหายไปนาน จึงโปรดให้ตามหาจนทราบว่าพระราชฤๅษีประทับอยู่ ณ จันทกบรรพต พระองค์จึงเสด็จไปพร้อมด้วยข้าราชบริพารเพื่อเยี่ยมเยียนพระบิดา
พระราชา
พระราชา

ข้าแต่พระบิดา ข้าพเจ้ามาพบพญานาคราชผู้มีฤทธิ์มากนั่งฟังธรรมกับท่าน ท่านไม่หวาดกลัวพญานาคราชบ้างหรือ?

พระฤๅษี
พระฤๅษี

พญานาคราชแม้มีฤทธิ์ แต่ก็มิได้พ้นจากความทุกข์ จึงต้องพึ่งธรรมเพื่อดับทุกข์ พญานาคผู้นั้นเป็นผู้มีศรัทธาในธรรมเหมือนกับคนอื่น ๆ

พระราชาทรงฟังด้วยความประทับใจ แต่ในใจกลับเกิดความโลภอยากได้สมบัติของนาคพิภพ ทรงคิดในใจว่า
พระราชา
พระราชา

หากข้าได้ไปเยือนนาคพิภพ คงได้สมบัติมากมายมหาศาล

หลังจากพระราชาเสด็จกลับนคร ได้โปรดให้สร้างโรงทานและบริจาคทานทั่วราชอาณาจักร เพื่อบำเพ็ญกุศลหวังให้ได้สมบัตินาคพิภพในชาติต่อไป เมื่อพญานาคราชทราบเรื่อง ท่านก็รู้สึกว่าแม้ตนจะมีสมบัติมากมาย แต่มันก็ไม่ช่วยให้หลุดพ้นจากทุกข์ได้ ท่านจึงตั้งใจบำเพ็ญอุโบสถกรรมบนจอมปลวก บริเวณใกล้ลำน้ำใหญ่ เพื่อมอบชีวิตของตนเป็นทาน
พญานาคราช
พญานาคราช

ผู้ใดที่ต้องการหนัง เนื้อ หรืออวัยวะของข้าพเจ้า จงมาเอาไป ข้าพเจ้ายอมสละกายนี้เพื่อผู้อื่น

ในขณะเดียวกัน มีนายพราน 16 คนจากหมู่บ้านปัจจันตคาม ซึ่งล่าสัตว์มาไม่เจออะไรเลย จนกระทั่งมาเจอพญานาคราชนอนขดอยู่บนจอมปลวก
พรานคนหนึ่ง
พรานคนหนึ่ง

วันนี้เราไม่ได้ล่าสัตว์เลย แต่โชคดีจริง! นี่ไง นาคราชตัวใหญ่มาก เราฆ่ามันแล้วนำกลับไปกินเถอะ!

พวกนายพรานจึงถือหอกเข้าไปเตรียมแทงพญานาค พญานาคราชเห็นแล้วคิดว่า
พญานาคราช
พญานาคราช

มโนรถของข้าถึงที่สุดแล้ว เราได้มอบชีวิตนี้เป็นทาน เราจะไม่ตอบโต้หรือทำร้ายใครเลย

พวกนายพรานต่างใช้หอกแทงขนดของพญานาคราชถึงแปดแห่ง แล้วจับหางลากไปตามทาง ทว่า อาฬารกุฏุมพี ผู้เป็นพ่อค้าเดินทางผ่านมาเห็นเหตุการณ์ จึงรู้สึกสงสารพญานาคราชอย่างมากจึงขอร้องนายพรานว่า
อาฬารกุฏุมพี
อาฬารกุฏุมพี

พวกท่าน ข้าจะมอบโค 16 ตัวให้พวกท่าน ขอได้โปรดปล่อยพญานาคราชนี้เถิด

นายพรานยอมรับข้อเสนอและปล่อยพญานาคไป อาฬารกุฏุมพีจึงปลดเชือกและหอกออกจากตัวพญานาคอย่างเบามือ
พญานาคราช
พญานาคราช

ข้าแต่ท่านอาฬาระ ท่านได้ช่วยชีวิตข้าพเจ้าไว้ ขอเชิญท่านไปเยี่ยมชมสมบัติในนาคพิภพของข้าพเจ้า ท่านจะได้รับเกียรติและสมบัติมากมาย

แต่อาฬารดาบสกลับปฏิเสธอย่างสุภาพ
อาฬารกุฏุมพี
อาฬารกุฏุมพี

ข้ามิได้ปรารถนาสมบัติใด ๆ สิ่งที่ข้าต้องการคือความสงบในธรรม

พญานาคราชฟังแล้วรู้สึกเคารพในความตั้งมั่นของอาฬารดาบส จึงเชิญชวนให้ท่านเยี่ยมชมสมบัติในนาคพิภพเป็นครั้งสุดท้าย
ม้า
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

“การรักษาศีลและความเมตตา ไม่ว่าเราจะมีอำนาจหรือสมบัติมากแค่ไหน ความสงบและความสุขที่แท้จริงนั้นมาจากการอยู่ในธรรมและการบำเพ็ญเพียร”