เวทัพพะชาดก

เวทัพพะชาดก

พราหมณ์เวทัพพะ ผู้ว่ายากและไม่ฟังคำเตือนของพระโพธิสัตว์ ใช้มมนต์เรียกฝนแก้วมาให้โจรจนเกิดความวุ่นวาย สุดท้ายตัวเองและโจรทั้งหมดต้องจบชีวิตอย่างน่าเศร้า พระโพธิสัตว์นำทรัพย์สินกลับมาทำบุญ และสอนบทเรียนสำคัญถึงการหลีกเลี่ยงความโลภและการฟังคำตักเตือน

27 อ่าน
อ่านเรื่องเต็ม
ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตปกครองกรุงพาราณสี มีพราหมณ์นามว่า เวทัพพะ เจ้าของมนต์วิเศษที่สามารถเรียก ฝนแก้วเจ็ดประการ จากฟากฟ้าได้ พระโพธิสัตว์ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของพราหมณ์ผู้นี้ ได้รับการสั่งสอนศิลปวิทยาจากเขา
วันหนึ่ง ทั้งสองออกเดินทางผ่านป่าใหญ่ด้วยกิจธุระสำคัญ ระหว่างทาง ทั้งสองถูกจับโดยโจรกลุ่มหนึ่งที่เรียกว่า เปสนกโจร พวกโจรมีธรรมเนียมปล่อยตัวหนึ่งคนไปนำทรัพย์เพื่อแลกกับอีกคนหนึ่งที่ถูกกักตัวไว้
เหล่าโจรปล่อยพระโพธิสัตว์ให้ไปนำทรัพย์กลับมา พระโพธิสัตว์จึงกล่าวคำลาลาอาจารย์ด้วยความกังวล
พระโพธิสัตว์
พระโพธิสัตว์

อาจารย์ โปรดฟังคำเตือนจากข้า ในวันนี้ท่านอาจพบฤกษ์ที่สามารถเรียกฝนแก้วได้ ขออย่าใช้มนต์นั้น หากท่านทำเช่นนั้น พวกโจรจะไม่ไว้ชีวิตท่าน!

พราหมณ์เวทัพพะ
พราหมณ์เวทัพพะ

เจ้าอย่าห่วงไปเลย ข้าจะอดทนรอจนเจ้ากลับมา รีบไปเถอะ!

ในยามค่ำคืน เมื่อพราหมณ์เห็นดวงจันทร์เต็มดวง ทราบได้ว่าฤกษ์สำหรับการร่ายมนต์มาถึงแล้ว เขาอดใจไม่ไหว คิดว่าหากใช้มนต์นี้จะสามารถปลดปล่อยตัวเองได้
พราหมณ์เวทัพพะ
พราหมณ์เวทัพพะ

ทำไมข้าต้องอดทนเสวยทุกข์ยากเช่นนี้ แค่ร่ายมนต์ ฝนแก้วก็ตกลงมา แล้วข้าก็จะเป็นอิสระ!

เขาขอให้พวกโจรแก้มัดและจัดการร่ายมนต์ ทันใดนั้น ฝนแก้วเจ็ดประการ ก็ตกลงมาจากฟากฟ้า โจรทั้ง 500 คนพากันกอบโกยทรัพย์สินอย่างลิงโลด
แต่ขณะที่พวกโจรกำลังขนทรัพย์สมบัติกันอยู่นั้น มีโจรอีกกลุ่มหนึ่งจำนวน 500 คนเหมือนกันมาดักจับโจรกลุ่มเดิม พวกโจรกลุ่มเดิมจึงบอกว่าให้ปล่อยตัวพวกมันและนำตัวพราหมณ์เวทัพพะไปแทนเพราะสามารถเรียกฝนแก้วเจ็ดประการได้
พวกโจรกลุ่มใหม่ปล่อยตัวโจรกลุ่มแรก แล้วหันมาจับตัวพราหมณ์ไว้แทน พร้อมกับบอกให้พราหมณ์เวทัพพะเรียกทรัพย์สมบัติมาให้พวกมัน พราหมณ์เวทัพพะจึงพยายามหาข้ออ้างว่า
พราหมณ์เวทัพพะ
พราหมณ์เวทัพพะ

ฤกษ์ใหม่จะมาถึงอีกครั้งในปีหน้า พวกท่านต้องรอจนถึงเวลานั้น

คำพูดนี้ทำให้เหล่าโจรโกรธจัด พวกเขาฟันพราหมณ์ขาดเป็นสองท่อนด้วยดาบ แล้วพากันไล่ตามโจรกลุ่มแรก ทั้งสองกลุ่มโจรเปิดศึกต่อสู้กันอย่างดุเดือดเพราะความโลภ ท้ายที่สุด ต่างฝ่ายต่างล้มตายจนหมดสิ้น เหลือเพียงโจรสองคนสุดท้ายที่ยังคงแย่งชิงทรัพย์สิน
โจรคนหนึ่งคิดวางยาพิษในอาหารเพื่อฆ่าอีกคน ขณะที่อีกคนเตรียมดาบเพื่อฟันเพื่อน เมื่อทั้งสองนำแผนการมาใช้ สุดท้ายก็สิ้นชีวิตไปทั้งคู่
พระโพธิสัตว์กลับมาพร้อมทรัพย์ที่ตั้งใจนำมาช่วยอาจารย์ แต่สิ่งที่พบคือซากศพของอาจารย์และโจรทั้งหมด รวมถึงทรัพย์สินที่กองกระจัดกระจาย
พระโพธิสัตว์
พระโพธิสัตว์

อาจารย์ของเราต้องพบจุดจบเพราะไม่เชื่อคำเตือนของเรา ความดื้อรั้นและความโลภนำพาความพินาศมาสู่ทุกคน

หลังจากนั้นพระโพธิสัตว์เผาศพอาจารย์ บูชาด้วยดอกไม้ป่า และนำทรัพย์สินที่เหลือกลับไปใช้ในการทำบุญและสร้างประโยชน์แก่ผู้อื่น
ม้า
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

“การฟังคำแนะนำจากผู้หวังดีเป็นคุณธรรมที่สำคัญ หากหลงใหลในความโลภหรือความดื้อรั้น ย่อมนำพาความพินาศมาสู่ตนเองและผู้อื่น”