ศรีธนญชัย

ศรีธนญชัย

ศรีธนญชัย เด็กชายผู้เฉลียวฉลาดแต่เจ้าเล่ห์ ได้ใช้เล่ห์กลในการแกล้งพระและผู้อื่นอย่างสนุกสนาน จนในที่สุดเขาถูกพระเจ้าภูเบศตัดสินให้ใช้หนี้ ทำให้ศรีธนญชัยเรียนรู้ว่าความฉลาดแกมโกงนั้นไม่สามารถนำพาชัยชนะมาได้ในระยะยาว

143 อ่าน
อ่านเรื่องเต็ม
นานมาแล้ว ณ หมู่บ้านหนึ่ง มีหญิงชื่อนางแก้ว นางเป็นคนใจบุญชอบทำบุญทำทาน วันหนึ่ง ขณะที่นางกำลังจะข้ามแม่น้ำไปทำบุญอีกฝั่ง แต่ฝนตกหนักจนน้ำท่วมทำให้นางข้ามไม่ได้ นางเห็นพระรูปหนึ่งพายเรือผ่านมา นางจึงร้องขอให้พระช่วยพานางข้ามไปด้วย
นางแก้ว
นางแก้ว

หลวงพี่ โปรดพาข้าข้ามฟากไปด้วย ข้าจะไปทำบุญที่วัดฝั่งโน้น

แต่พระรูปนั้นรีบร้อนไม่ยอมหยุดและพายเรือผ่านไป นางแก้วเสียใจมากจึงอธิษฐานว่า
นางแก้ว
นางแก้ว

ถ้าชาติหน้าได้เกิดเป็นแม่ ขอให้มีลูกชายที่ต้องชดใช้กรรมร่วมกับพระรูปนี้

เวลาผ่านไป นางแก้วได้คลอดลูกชายชื่อว่า "ศรีธนญชัย" เด็กชายที่มีไหวพริบเฉลียวฉลาด แต่ก็มีนิสัยเจ้าเล่ห์ แม่ของเขาจึงส่งเขาไปอยู่วัดเพื่อฝึกฝนความรู้และธรรมะ
วันหนึ่ง พระที่เลี้ยงดูศรีธนญชัย สั่งให้เขาไปซักผ้า ศรีธนญชัยซักผ้าเสร็จก็เอาผ้าไปตากบนกองทราย ทันใดนั้น มีหมาตัวหนึ่งผ่านมา ศรีธนญชัยคิดแกล้งพระ จึงเอาน้ำตาลอ้อยกับงาดำปั้นเป็นก้อนกลม ๆ วางไว้บนผ้าของพระ
พระ
พระ

เฮ่ย ศรีธนญชัย! ทำไมเจ้าถึงโง่นัก ซักผ้าไว้ก็ไม่เฝ้า ให้หมามาขี้รดเสียได้

ศรีธนญชัย
ศรีธนญชัย

กระผมไปทำงานอื่นอยู่ เลยไม่ได้เฝ้าผ้า

พระโกรธมากจึงสั่งให้ศรีธนญชัยกินขี้หมาที่อยู่บนผ้า แต่ศรีธนญชัยกลับหยิบขึ้นมากินอย่างไม่รังเกียจ
พระ
พระ

นี่แกกินอร่อยเชียวหรือ?

ศรีธนญชัย
ศรีธนญชัย

ขี้หมานี่อร่อยมากเลยขอรับ

พระเห็นท่าทีของศรีธนญชัยจึงอยากลองกินบ้าง เมื่อชิมแล้วก็รู้ว่าถูกหลอก พระรู้สึกเสียหน้ามาก จึงสั่งศรีธนญชัยจับหมาตัวนั้นเพื่อบีบขี้ออกมาให้หมด แต่ศรีธนญชัยก็แกล้งพระกลับด้วยการทำให้หมาขี้ออกมาตามคำสั่ง
หลังจากนั้นไม่นาน พระมีธุระต้องเข้าเมือง และสั่งศรีธนญชัยไม่ให้เปิดประตูให้ใครในช่วงที่พระไม่อยู่
พระ
พระ

ใครมาเรียก อย่าเปิดประตูเด็ดขาด เข้าใจไหม?

ตกดึก พระกลับมาจากธุระและเรียกให้ศรีธนญชัยเปิดประตู
พระ
พระ

ไอ้ศรีธนญชัย ข้ากลับมาแล้ว เปิดประตูที!

ศรีธนญชัย
ศรีธนญชัย

หลวงพี่สั่งไม่ให้เปิดขอรับ ข้าทำตามคำสั่งอยู่

พระโมโหมากเพราะต้องนอนนอกกุฏิจนเช้า นี่เป็นอีกครั้งที่ศรีธนญชัยใช้เล่ห์กลเพื่อแกล้งพระ
วันหนึ่ง ศรีธนญชัยตัดสินใจบอกพระว่าจะไปค้าขายเกลือ พระจึงขอติดตามไปด้วย ศรีธนญชัยแอบเก็บดอกหมามุ่ยใส่อานม้า ทำให้พระขี่ม้าแล้วรู้สึกคันไปทั้งทาง
พระ
พระ

ไอ้ศรีธนญชัย ข้าคันไปทั้งตัวเพราะเจ้าทำแสบแน่ ๆ

แต่ศรีธนญชัยยังแกล้งพระต่อด้วยการทำให้พระแลกหน้าที่ โดยให้พระหาบเกลือแทน ส่วนเขาก็ขี่ม้าสบายใจ พระโกรธแต่ทำอะไรไม่ได้เพราะความเจ้าเล่ห์ของศรีธนญชัย เหมือนเกิดมาเป็นเวรเป็นกรรมต่อกันจริง ๆ
ความแสบของศรีธนญชัยเป็นที่เลื่องลือ ใคร ๆ ต่างก็รู้ว่าเป็นคนเจ้าเล่ห์ แม้จะอยากลงโทษอย่างไรศรีธนญชัยก็จะเอาตัวรอดได้ทุกครั้ง กระทั่งวันหนึ่ง ในที่สุด ศรีธนญชัยก็ถูกฟ้องร้องต่อพระเจ้าภูเบศในคดีขอยืมเงินแต่ไม่ยอมคืน พระเจ้าภูเบศเรียกศรีธนญชัยมาสอบสวน
พระเจ้าภูเบศ
พระเจ้าภูเบศ

เจ้าต้องคืนเงินที่ยืมมา

ศรีธนญชัย
ศรีธนญชัย

ข้าบอกแล้วว่าจะคืนเมื่อครบสองเดือน แต่ตอนนี้ยังแค่เดือนเดียว

พระเจ้าภูเบศมองขึ้นฟ้าแล้วเห็นดวงจันทร์สองดวง จึงกล่าวว่า
พระเจ้าภูเบศ
พระเจ้าภูเบศ

นี่คือเดือนสองเดือน เจ้าต้องคืนเงินทันที!

ศรีธนญชัยไม่คิดเลยว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนฉลาดและเจ้าเล่ห์ ก็ยังมีคนที่ฉลาดกว่า เมื่อรู้ว่าตนแพ้แล้ว จึงต้องยอมใช้หนี้แต่โดยดี
ม้า
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

“การใช้เล่ห์กลและความเจ้าเล่ห์จะนำมาซึ่งผลร้ายในที่สุด”