เมื่อความโกรธหายไป

เมื่อความโกรธหายไป

โต้งเป็นเด็กที่โกรธง่าย จนทำให้เขาผลักเพื่อนที่สนิทเพราะแพ้เกม เมื่อครูเมย์เห็นปัญหาจึงให้คำแนะนำ โต้งจึงลองฝึกละวางความโกรธ จนในที่สุดเขาก็รู้สึกสบายใจขึ้นและได้มิตรภาพจากเพื่อน ๆ กลับมา

216 อ่าน
อ่านเรื่องเต็ม
โต้งเป็นเด็กชายที่มักโกรธง่าย เขามักจะไม่พอใจเมื่อใครพูดหรือทำอะไรที่ขัดใจ วันหนึ่งหลังเลิกเรียน โต้งเล่นเกมกับเพื่อน ๆ แต่เมื่อเขาแพ้เกมกลับโกรธจนผลักปั้นซึ่งเป็นเพื่อนสนิท ปั้นจึงรู้สึกเสียใจและเดินออกไป โต้งไม่เข้าใจว่าตนทำอะไรผิด และมักคิดว่าเพื่อน ๆ ไม่ควรทำให้เขารู้สึกโกรธ
ปั้น
ปั้น

โต้ง นายต้องระวังอารมณ์บ้างนะ พอเพื่อนแพ้นายก็โกรธแล้วใช้กำลัง มันไม่ดีเลยนะ

โต้ง
โต้ง

แต่ฉันก็แค่โมโหเวลาฉันแพ้นี่น่า นายก็รู้ว่าฉันไม่ได้ตั้งใจ

วันรุ่งขึ้น ครูเมย์สังเกตเห็นความผิดปกติระหว่างโต้งและปั้น จึงเรียกโต้งมาพูดคุยเพื่อให้คำแนะนำ
ครูเมย์
ครูเมย์

โต้ง ครูสังเกตว่าลูกมีปัญหาเรื่องการควบคุมอารมณ์ ครูขอแนะนำว่าเมื่อรู้สึกโกรธ ลองหยุดคิดสักครู่ สูดหายใจลึก ๆ แล้วค่อย ๆ ละวางความโกรธออกไป มันจะช่วยให้เราไม่ทำร้ายใครโดยไม่ตั้งใจนะ

โต้ง
โต้ง

แต่ครูครับ บางทีผมก็ห้ามไม่อยู่ ไม่รู้ว่าทำไมถึงโกรธง่ายแบบนี้

ครูเมย์
ครูเมย์

เป็นเรื่องปกติที่ทุกคนจะโกรธบ้าง แต่ถ้าเราฝึกละวางอารมณ์โกรธและมองข้ามสิ่งที่ทำให้เราโกรธ เราจะสบายใจขึ้นมาก

ครูเมย์
ครูเมย์

โต้งลองทำดูไหม? ค่อย ๆ ฝึกไป และเธอจะรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในตัวเอง

โต้งรับฟังคำแนะนำของครูเมย์แล้วตัดสินใจลองทำตาม วันถัดมาเมื่อเพื่อน ๆ มาเล่นเกมด้วยกัน โต้งเริ่มรู้สึกโกรธอีกครั้งเมื่อเขาแพ้ แต่คราวนี้เขาหยุดคิดและสูดหายใจลึก ๆ จนความโกรธเริ่มหายไป ปั้นเห็นโต้งไม่โกรธก็รู้สึกดีใจและขอบคุณเขาที่พยายามปรับตัว
ปั้น
ปั้น

ขอบคุณนะโต้งที่พยายามควบคุมอารมณ์ ฉันดีใจที่เราได้เล่นด้วยกันอย่างสนุกอีกครั้ง

หลังจากนั้น โต้งเริ่มมีความสุขมากขึ้น และได้เรียนรู้ว่าการละวางความโกรธช่วยให้เขาเป็นคนที่ใจเย็นและเป็นที่รักของเพื่อน ๆ
ม้า
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

“ความโกรธเป็นอารมณ์ที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่ถ้าเราฝึกที่จะละวางและควบคุมอารมณ์นี้ มิตรภาพและความสุขก็จะตามมา การให้อภัยและไม่ถือโทษทำให้เรามีชีวิตที่เบาสบายและมีเพื่อนมากขึ้น”