สัตตปัตตชาดก บทเรียนแห่งกรรมและการอภัย

สัตตปัตตชาดก บทเรียนแห่งกรรมและการอภัย

สัตตปัตตชาดกเล่าเรื่องของมานพหนุ่มที่ไม่เข้าใจความหวังดีของมารดาที่กลับชาติมาเกิดเป็นสุนัขจิ้งจอก และได้พยายามเตือนเขาถึงอันตรายจากโจร สุดท้าย เมื่อมานพหนุ่มถูกโจรจับตัว โจรได้คืนทรัพย์สินให้เขาพร้อมบอกความจริงว่า นกกระไนที่ร้องเพลงอย่างที่เขาคิดว่ามีโชคดีนั้น แท้จริงแล้วคือการส่งสัญญาณให้โจรปล้น

42 อ่าน
อ่านเรื่องเต็ม
ในอดีตกาล ณ ชายป่าใกล้กับแคว้นกาสี มี นายโจร และสมุนของเขาที่คอยดักปล้นผู้คนที่เดินทางผ่าน นายโจรเป็นผู้มีชื่อเสียงลือไกลในความฉลาดและความเมตตาต่อผู้ยากไร้ แม้เขาจะเป็นโจร แต่เขาก็ไม่เคยทำร้ายใคร และมักจะแจกจ่ายอาหารและเสื้อผ้าให้กับคนที่ลำบาก ชื่อเสียงของนายโจรจึงเป็นที่ยอมรับในหมู่บ้านแถบนั้น ทำให้การตามจับตัวเขาเป็นไปได้ยาก
พระเจ้ากาสิกราช
นายโจร

พวกเราจะไม่ทำร้ายใคร เอาทรัพย์ที่ไม่จำเป็นจากพวกเขาแล้วนำไปช่วยเหลือผู้คน แต่ว่าเราจะต้องหาเป้าหมายที่มีทรัพย์สินมากพอ

สมุนของนายโจรตอบรับและเตรียมการเพื่อปล้นทรัพย์จากผู้คนที่เดินผ่านชายป่านั้น
วันหนึ่ง ในหมู่บ้านห่างไกล มี มานพหนุ่ม ผู้หนึ่งที่ต้องออกเดินทางเพื่อไปทวงหนี้ให้กับมารดาผู้ล้มป่วย มารดาของเขารู้ว่าทรัพย์สินนั้นจะช่วยเลี้ยงดูบุตรชายในอนาคตได้ จึงบอกให้เขาออกเดินทางไปทวงเงินจากลูกหนี้ที่อยู่ในชนบทไกล
มารดา
มารดา

ลูกเอ๋ย ข้าเจ็บป่วยหนัก ข้าอยากให้เจ้าทวงเงินจากลูกหนี้ของบิดาที่ตายไป เงินนั้นจะช่วยให้เจ้าดำรงชีวิตได้หลังจากข้าสิ้นไป

มานพหนุ่ม
มานพหนุ่ม

แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ข้าจะรีบไปทวงหนี้และกลับมาให้ไวที่สุด แม่ต้องรักษาตัวให้ดี ข้าจะกลับมาดูแลแม่เอง

มานพหนุ่มอำลามารดาและเริ่มต้นการเดินทางไกล ด้วยความห่วงใย มารดาของเขาอธิษฐานขอให้ลูกปลอดภัยจากอันตรายในการเดินทาง แต่หลังจากที่เขาออกเดินทางไปไม่นาน มารดาของเขาก็ล้มป่วยหนักและเสียชีวิตลง วิญญาณของนางซึ่งผูกพันและห่วงใยบุตรชาย กลับมาเกิดใหม่ในร่างของ สุนัขจิ้งจอก ซึ่งอาศัยอยู่ในชายป่าที่มานพหนุ่มจะต้องผ่านเพื่อกลับบ้าน
เมื่อสุนัขจิ้งจอก (ซึ่งเป็นวิญญาณของมารดา) รู้ว่าโจรกำลังวางแผนดักปล้นลูกชายของตน นางจึงรีบวิ่งไปดักหน้าลูกชายเพื่อเตือนภัย นางใช้พลังทั้งหมดที่มีเพื่อปกป้องบุตรชายของตน
สุนัขจิ้งจอก
สุนัขจิ้งจอก

ลูกเอ๋ย เจ้าอย่าเดินไปทางนี้ มีอันตรายรออยู่ แม่จะปกป้องเจ้าแม้ในร่างนี้ แต่เจ้าจะเข้าใจสัญญาณของแม่หรือไม่?

เมื่อนางไปถึง นางขวางหน้าลูกชายและเริ่มตะกุยดินเป็นสัญญาณว่าไม่ให้เดินไปทางข้างหน้า แต่บุตรชายของนางกลับไม่เข้าใจ และคิดว่าสุนัขจิ้งจอกเพียงแค่ก่อกวน
มานพหนุ่ม
มานพหนุ่ม

เจ้าสุนัขจิ้งจอกนี้มันช่างน่ารำคาญ ทำไมมันถึงขวางทางเรา ไม่เห็นมีอะไรอยู่ข้างหน้าเลย ข้าจะต้องรีบกลับบ้านเพื่อไปดูแม่ ข้าจะไม่เสียเวลาตรงนี้อีก

มานพหนุ่มขับไล่สุนัขจิ้งจอกด้วยก้อนหิน ทำให้นางต้องหนีไปด้วยความเสียใจ หลังจากนั้นไม่นาน มานพหนุ่มเดินทางต่อไปโดยไม่ได้ฟังสัญญาณเตือน ขณะที่เขาเดินทาง เขาได้ยินเสียง นกกระไน ที่ร้องทักเขาจากต้นไม้ แต่เขากลับเข้าใจผิด คิดว่าเสียงนกกระไนเป็นการให้พร
มานพหนุ่ม
มานพหนุ่ม

โอ้ เจ้านกน้อย เจ้าร้องให้พรข้า ข้าจะต้องโชคดีแน่ ๆ ขอบใจเจ้านัก ร้องอีกสิ เสียงเจ้าน่าฟังจริง ๆ

แต่แท้จริงแล้วนกกระไนกำลังส่งสัญญาณบอก นายโจร ว่ามีเป้าหมายที่มีทรัพย์สินกำลังผ่านมาทางนี้ นายโจรฟังเสียงนกกระไนและเข้าใจความหมายทันที เขาจึงเตรียมการดักปล้นมานพหนุ่ม เมื่อมานพหนุ่มเดินทางมาถึงที่ดักปล้น เขาก็ถูกจับตัวไว้โดยไม่มีโอกาสหนี
พระเจ้ากาสิกราช
นายโจร

ส่งทรัพย์สินมาให้ข้า ข้าไม่อยากทำร้ายเจ้า แต่ถ้าเจ้าไม่ให้ ข้าคงต้องบังคับ

มานพหนุ่มตกใจมากและรีบยอมส่งมอบเงินพันกหาปนะให้ แต่เพราะนายโจรเป็นผู้ที่มีความเมตตา เขาจึงรู้สึกสงสารและไม่ต้องการทำร้ายเขา
พระเจ้ากาสิกราช
นายโจร

เจ้ารู้หรือไม่ มารดาของเจ้าได้ตายไปแล้ว และนางได้กลับชาติมาเกิดเป็นสุนัขจิ้งจอกที่พยายามจะเตือนเจ้า แต่นางถูกเจ้าขับไล่และใช้ก้อนหินปา นกกระไนที่เจ้าคิดว่าร้องให้พร แท้ที่จริงแล้วมันร้องเพื่อบอกข้าว่าต้องมาปล้นเจ้า

มานพหนุ่ม
มานพหนุ่ม

โธ่ แม่ ข้าไม่น่าทำเช่นนั้นกับท่านเลย ข้าผิดไปแล้ว

ด้วยความเมตตา นายโจรจึงคืนทรัพย์ให้มานพหนุ่มและปล่อยเขาไปพร้อมกับคำแนะนำให้กลับไปบูชามารดาที่เสียไปอย่างดี
ม้า
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

“การฟังคำเตือนและความหวังดีจากผู้อื่น แม้ในรูปแบบที่เราไม่เข้าใจในทันที เป็นสิ่งสำคัญ เพราะความห่วงใยและความรักของผู้ใหญ่มีค่าเกินกว่าที่จะมองข้ามไป”