ไกรทอง

พญาชาละวัน จระเข้ผู้ดุร้าย แอบลักพาตัวนางตะเภาทองไปที่ถ้ำทอง ไกรทอง หนุ่มกล้าหาญ ได้รับมอบหมายให้มาปราบชาละวัน หลังจากการต่อสู้ที่ดุเดือด ชาละวันถูกสังหาร และไกรทองก็ช่วยนางตะเภาทองกลับมาได้สำเร็จ ในที่สุดไกรทองได้ครองรักกับนางตะเภาแก้ว แต่ยังมีความสัมพันธ์กับนางวิมาลา จระเข้สาว จนเกิดความขัดแย้งขึ้น สุดท้ายทุกฝ่ายก็ปรับความเข้าใจกันและอยู่ร่วมกันอย่างสันติ

125 อ่าน

อ่านเรื่องเต็ม พิมพ์เรื่องนี้

Tags :

แนะนำตัวละคร

ไกรทอง

ชาละวัน

ท้าวรำไพ

นางตะเภาแก้ว

ณ ถ้ำทองที่ลึกลับกลางป่า ชาละวัน พญาจระเข้ ผู้ทรงอำนาจและดุร้าย นั่งอยู่ท่ามกลางแสงส่องจากลูกแก้ววิเศษ ภายในถ้ำที่ทุกจระเข้เมื่อเข้ามาจะกลายเป็นมนุษย์ แต่ชาละวันมิได้สนใจในศีลธรรมของปู่ท้าวรำไพที่ทรงศีล กลับใช้ชีวิตด้วยความโลภและหลงในอำนาจ

ชาละวัน

ข้าเป็นเจ้าแห่งถ้ำทอง ไม่มีใครท้าทายข้าได้ ข้าจะทำอะไรก็ได้ตามใจ!

วันหนึ่งที่เมืองพิจิตร นางตะเภาแก้วและนางตะเภาทอง สองพี่น้องบุตรเศรษฐี กำลังเล่นน้ำอย่างสนุกสนานที่ท่าน้ำหน้าบ้าน ทันใดนั้น ชาละวันในร่างจระเข้ยักษ์ก็ปรากฏตัวขึ้น

ชาละวัน

นางตะเภาทองช่างงามนัก ข้าต้องการนางมาเป็นของข้า!

ชาละวันรีบพุ่งไปคาบนางตะเภาทองลงน้ำและดำดิ่งกลับสู่ถ้ำทอง เมื่อฟื้นขึ้นมานางตะเภาทองตกตะลึงในความสวยงามของถ้ำทอง แต่รู้สึกหวาดกลัว ชาละวันกลับกลายร่างเป็นชายหนุ่มรูปงาม

ชาละวัน

เจ้าจงมาเป็นภรรยาข้าเถิด

แต่เมื่อนางปฏิเสธ ชาละวันใช้เวทมนตร์สะกดให้นางหลงรักและยอมเป็นภรรยา

ขณะนั้น เศรษฐีผู้เป็นพ่อเสียใจมากจึงประกาศหาผู้กล้ามาปราบจระเข้ยักษ์ที่ลักพาตัวลูกสาวไป พร้อมเสนอรางวัลมหาศาล

ไกรทอง หนุ่มผู้กล้าหาญจากเมืองนนทบุรี ผู้ร่ำเรียนวิชาการปราบจระเข้จากอาจารย์คง ได้ยินข่าวจึงรีบอาสาไปปราบชาละวัน

ไกรทอง

ข้าจะปราบเจ้าจระเข้ยักษ์นี้ให้ได้ ขอให้ท่านเศรษฐีโปรดวางใจ

ก่อนการต่อสู้ ชาละวันได้ฝันถึงลางร้าย เห็นไฟไหม้ถ้ำ น้ำท่วมทะลัก และแผ่นดินไหว เขาจึงบอกเล่าความฝันนี้แก่ปู่ท้าวรำไพ

ชาละวัน

ท่านปู่ ท่านว่าไฟและน้ำท่วมในฝันของข้าคืออะไร ข้าเริ่มหวาดกลัวแล้ว

ท้าวรำไพ

นั่นเป็นลางร้าย เจ้าต้องจำศีลอยู่ในถ้ำ 7 วัน อย่าออกไป มิฉะนั้นเจ้าจะพบภัยพิบัติถึงชีวิต

วิมาลา เมียของชาละวันจึงสั่งให้บริวารจระเข้คาบก้อนหินมาปิดปากถ้ำไว้ แต่แล้วไกรทองก็ได้ตั้งพิธีบวงสรวงและท่องคาถา ทำให้ชาละวันรู้สึกทนไม่ไหว

ชาละวัน

ข้าทนไม่ไหวแล้ว! ข้าจะออกไปสู้กับมัน

วิมาลาพยายามห้ามปราม แต่ชาละวันแปลงร่างเป็นจระเข้ยักษ์และออกจากถ้ำเพื่อต่อสู้กับไกรทอง การต่อสู้ดุเดือด ไกรทองกระโดดขึ้นหลังชาละวันและใช้หอกสัตตโลหะแทงเข้าไปที่ลำตัว ทำให้อาคมของชาละวันเสื่อมลง

ไกรทอง

เจ้าไม่รอดแน่ชาละวัน!

ชาละวันที่บาดเจ็บหนักรีบหนีกลับไปที่ถ้ำทอง วิมาลาและเลื่อมลายวรรณพยายามขอความช่วยเหลือจากปู่ท้าวรำไพ แต่ท้าวรำไพไม่สามารถช่วยได้

ท้าวรำไพ

ข้าไม่อาจช่วยเจ้าได้ เจ้าทำตัวของเจ้าเอง

ไกรทองตามชาละวันมาถึงถ้ำ และได้พบกับวิมาลา ด้วยความเจ้าชู้ เขาเกี้ยวพาราสีจนวิมาลาใจอ่อน แต่วิมาลาก็หนีไป ไกรทองจึงตามนางไป ในขณะที่ชาละวันที่นอนบาดเจ็บอยู่ก็ออกมาเผชิญหน้ากับไกรทองอีกครั้ง การต่อสู้ครั้งสุดท้ายเริ่มขึ้น

ชาละวัน

ครั้งนี้ข้าจะสู้จนตัวตาย!

ไกรทองใช้หอกสัตตโลหะแทงกลางหลังของชาละวัน จนทำให้ชาละวันสิ้นใจลง ร่างของเขากลับกลายเป็นจระเข้ยักษ์นอนตายอยู่กลางถ้ำทอง ไกรทองจึงพานางตะเภาทองกลับสู่เมืองพิจิตร เศรษฐีดีใจมากที่ลูกสาวยังไม่ตายจึงจัดพิธีแต่งงานให้ตามคำสัญญา

หลังจากนั้น ไกรทองกลับนึกถึงวิมาลา จึงกลับไปหานางและอยู่กินด้วย ไกรทองได้ทำพิธีให้นางวิมาลาเป็นมนุษย์ได้เมื่อนางออกจากถ้ำ แต่นางตะเภาแก้วและนางตะเภาทองก็จับได้ว่าไกรทองไปอยู่กับวิมาลา จึงเกิดความหึงหวงขึ้น

นางตะเภาแก้ว

เจ้าไปหาเมียจระเข้อย่างนั้นหรือ!

ไกรทองจึงต้องออกมาห้ามไม่ให้เมียทั้งสามทะเลาะกัน และเขาต้องอำลานางวิมาลาด้วยความเสียใจ ทว่าสุดท้ายเขาก็สามารถปรับความเข้าใจกับนางตะเภาแก้วและนางตะเภาทองได้ จนในที่สุดทั้งสามคนก็อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

“ความอดทน ความพยายาม และการรักษาสัญญาจะนำมาซึ่งความสำเร็จและความสุขในที่สุด”