ต้นโอ๊กกับต้นอ้อ

ต้นโอ๊กกับต้นอ้อ

ณ บึงน้ำในป่าแห่งหนึ่ง บึงแห่งนี้เป็นที่อาศัยของสัตว์น้ำน้อยใหญ่นานาชนิด ทั้งยังมีพืชที่อุดมสมบูรณ์มากมาย มีต้นโอ๊กใหญ่ขึ้นแผ่กิ่งก้านอยู่ริมฝั่งและมีต้นอ้อขั้นอยู่ในน้ำ ทั้งสองมักจะเห็นกันและกันอยู่ทุกวัน

159 อ่าน
อ่านเรื่องเต็ม
ณ บึงน้ำในป่าแห่งหนึ่ง บึงแห่งนี้เป็นที่อาศัยของสัตว์น้ำน้อยใหญ่นานาชนิด ทั้งยังมีพืชที่อุดมสมบูรณ์มากมาย มีต้นโอ๊กใหญ่ขึ้นแผ่กิ่งก้านอยู่ริมฝั่งและมีต้นอ้อขั้นอยู่ในน้ำ ทั้งสองมักจะเห็นกันและกันอยู่ทุกวัน
เมื่อมีลมพัดมาอย่างแรง ทำให้ต้นอ้อเอนลู่ไปตามลม บางครั้งที่ลมแรง ต้นอ้อก็จะเอนตามลมจนแทบจะล้ม ต้นโอ๊กเห็นอย่างนั้นจึงหัวเราะร่าและใช้คำพูดเยาะเย้ยต้นอ้อว่า
ต้นโอ๊ก
ต้นโอ๊ก

เจ้านี่ช่างไม่กล้าหาญเอาเสียเลย ขนาดลมพัดเบา ๆ ก็ยังโอนเอนตาม

ต้นโอ๊ก
ต้นโอ๊ก

ช่างอ่อนแอนัก เจ้าดูข้าเป็นเยี่ยงอย่างนะ ไม่ว่าประจันหน้ากับอะไร ข้าก็ตั้งตรงไม่หวาดหวั่น

ต้นอ้อได้ยินเช่นนั้นก็ไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ เพราะรู้ดีว่าต้นโอ๊กมักจะโอ้อวดว่าตนดีแบบนี้อยู่เสมอ จึงไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงอะไรให้มันเหนื่อยเปล่า
และแล้วในคืนนั้นเอง เกิดมีลมพายุพัดโหมกระหน่ำครั้งใหญ่ แม้ต้นโอ๊กจะสูงใหญ่ และมีลำต้นที่แข็งแกร่งมากเพียงใด แต่ก็เป็นเพราะความสูงใหญ่ของต้นโอ๊กนั่นเอง ที่ทำให้ลำต้นต้านลมอย่างหนัก ต้นโอ๊กพยายามที่จะยืนต้านแรงพายุ แต่ก็ต้านไม่ไหวจนหักโค่นลงในที่สุด
ส่วนต้นอ้อ เมื่อพายุพัดผ่านไปก็ชูใบขึ้นตามเดิม ต้นอ้อเห็นสภาพของต้นโอ๊กจึงพูดว่า
ต้นอ้อ
ต้นอ้อ

การที่ข้าเจียมตัวว่าอ่อนแอ เอนลู่ไปตามลม ก็ยังดีกว่าเจ้าที่ทะนงตนว่าแข็งแรงจนพบจุดจบเช่นนี้

ม้า
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

“การโอนอ่อนที่เหมาะสมกับสถานการณ์ ดีกว่าแข็งกร้าวบ้าบิ่นจนเกิดอันตราย”