เส้นทางของฉัน

เส้นทางของฉัน

ต้นเป็นเด็กหนุ่มที่มีความฝันอยากเป็นศิลปิน แต่ถูกพ่อแม่และเพื่อนบางคนดูถูกว่าไม่มีอนาคต จนกระทั่งเขาได้รับแรงบันดาลใจจากครูศิลปะและลุงชาญ ทำให้เขาตัดสินใจเดินตามความฝัน แม้จะเจออุปสรรค แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้ สุดท้ายต้นประสบความสำเร็จและพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า ไม่มีใครสามารถกำหนดเส้นทางชีวิตของเราได้ นอกจากตัวเราเอง

593 อ่าน
อ่านเรื่องเต็ม
ในเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง มีเด็กหนุ่มชื่อ ต้น เขาเป็นคนเงียบ ๆ แต่ชอบวาดภาพมาตั้งแต่เด็ก ทุกครั้งที่เขาหยิบดินสอหรือพู่กันขึ้นมา โลกทั้งใบของเขาจะเต็มไปด้วยสีสันและจินตนาการ ทุกครั้งที่ต้นนั่งวาดภาพ เขาจะรู้สึกว่าตัวเองมีความสุขที่สุดในโลก
วันหนึ่ง ขณะที่ต้นกำลังวาดภาพวิวทิวทัศน์ของหมู่บ้าน ครูวิน ครูสอนศิลปะเดินผ่านมาและเห็นภาพของเขา
ครูวิน
ครูวิน

ต้น เธอวาดสวยมากเลยนะ รายละเอียดนี่แทบจะเหมือนภาพถ่ายเลย

ต้น
ต้น

ขอบคุณครับครู ผมชอบวาดรูปมาตั้งแต่เด็กแล้ว

ครูวิน
ครูวิน

ถ้าเธอฝึกฝนมากขึ้น อนาคตเธออาจเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงได้เลยนะ

คำพูดของครูวินทำให้ต้นมีความหวังขึ้นมา แต่เมื่อเขานำภาพวาดกลับไปให้พ่อแม่ดูที่บ้าน ทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างที่คิด
พ่อ
พ่อ

ศิลปิน? แล้วมันจะเลี้ยงตัวเองได้เหรอลูก? พ่ออยากให้ลูกเรียนหมอ นั่นแหละอาชีพที่มั่นคง

แม่
แม่

ใช่ลูก ศิลปินมันไม่มีอนาคตหรอก พ่อแม่อยากให้ลูกมีชีวิตที่ดีนะ

ต้นก้มหน้าลง เขาไม่อยากขัดใจพ่อแม่ แต่ในใจก็รู้สึกว่าศิลปะคือสิ่งที่ทำให้เขามีความสุข หลังจากวันนั้น ที่โรงเรียน ต้นนำเรื่องนี้ไปเล่าให้เพื่อนฟังถึงความฝันที่จะเป็นศิลปินของเขา เพื่อนบางคนก็หัวเราะเยาะ บางคนก็คอยเอาใจช่วยกับเส้นทางของเขา
ต้นรู้สึกสับสนมากขึ้น เขาคิดว่า
ต้น
ต้น

หรือว่าฉันควรจะทำตามที่พ่อแม่บอกดี

วันนั้นหลังเลิกเรียน ต้นเดินผ่านร้านกรอบรูปของ ลุงชาญ ชายชราผู้เป็นเจ้าของร้าน ลุงชาญเห็นต้นเดินผ่านร้านบ่อย ๆ จึงเอ่ยทัก
ลุงชาญ
ลุงชาญ

ไอ้หนุ่ม ดูสีหน้าดูไม่สดใสเลย มีเรื่องไม่สบายใจรึเปล่า

ต้น
ต้น

ผมอยากเป็นศิลปินครับลุง แต่พ่อแม่บอกว่ามันไม่มีอนาคต เพื่อนบางคนก็หัวเราะเยาะผม ผมไม่รู้ว่าควรทำยังไงดี

ลุงชาญพยักหน้า และหยิบภาพวาดเก่า ๆ ขึ้นมา
ลุงชาญ
ลุงชาญ

รู้ไหมว่านี่คือภาพของใคร?

ต้นมองภาพแล้วส่ายหัว
ลุงชาญ
ลุงชาญ

นี่เป็นภาพของลุงเอง ตอนหนุ่ม ๆ ลุงชอบวาดภาพมาก แต่ลุงไม่กล้าทำตามฝัน เพราะกลัวคำพูดของคนอื่น กลัวพ่อแม่จะผิดหวัง ลุงเลยเลือกอาชีพที่คนอื่นคิดว่าดี แต่สุดท้าย ลุงก็ไม่ได้มีความสุข

ต้นฟังแล้วรู้สึกเหมือนถูกสะกิดใจ
ลุงชาญ
ลุงชาญ

ต้น จำไว้นะ ไม่มีใครสามารถกำหนดชีวิตของเราได้นอกจากตัวเอง ถ้าเธอรักในสิ่งที่ทำ จงเดินหน้าต่อไป

หลังจากวันนั้น ต้นตัดสินใจแน่วแน่ว่าเขาจะไม่ยอมให้คำพูดของคนอื่นมาขัดขวางความฝันของเขา เขาใช้เวลาฝึกฝน ฝึกมือทุกวัน และเริ่มนำผลงานของตัวเองไปแสดงในนิทรรศการศิลปะ
หลายปีผ่านไป ต้นกลายเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียง งานของเขาถูกนำไปจัดแสดงในแกลเลอรี่ระดับประเทศ พ่อแม่ของเขาแม้จะเคยไม่เห็นด้วย แต่เมื่อเห็นความสำเร็จของลูกชาย พวกเขาก็ยอมรับและภูมิใจในตัวลูกอย่างมาก
ม้า
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

“อย่าปล่อยให้คำพูดของคนอื่นมาขีดเส้นทางชีวิตของคุณ ถ้าคุณมีฝัน จงกล้าที่จะเดินตามมัน และพิสูจน์ให้เห็นว่าคุณทำได้”