ชาวนากับงูเห่า

ชาวนากับงูเห่า

ชาวนาผู้มีจิตใจเมตตาพบงูเห่าที่กำลังจะตายจากความหนาว เขาตัดสินใจช่วยมันโดยอุ้มมาให้ความอบอุ่น แต่เมื่อมันฟื้นตัว งูเห่าก็ฉกชาวนาและทำให้เขาถึงแก่ความตาย นิทานนี้สอนให้ระมัดระวังในการแสดงความเมตตาต่อผู้อื่น เพราะบางครั้งสิ่งที่เราช่วยอาจกลับมาทำร้ายเราได้

95 อ่าน
อ่านเรื่องเต็ม
ในวันที่ลมหนาวพัดแรง ชาวนาผู้มีเมตตาเดินออกจากบ้านมุ่งหน้าไปยังท้องนาเพื่อดูแลพืชผลของเขา ระหว่างทางเขาได้ยินเสียงแผ่วเบา ราวกับเสียงหายใจของสิ่งมีชีวิต ชาวนาหยุดก้าวและมองไปรอบ ๆ จนเขาเห็นงูเห่าตัวหนึ่งนอนตัวแข็งทื่ออยู่บนคันนา
ชาวนาพูดกับตัวเองเบา ๆ
ชาวนา
ชาวนา

เจ้างูตัวนี้คงหนาวจนไม่อาจเคลื่อนไหวได้ ถ้าไม่ช่วยมันก็คงจะตายแน่ ๆ

เขารู้สึกสงสารงูเห่าตัวนั้น และแม้จะรู้อยู่แก่ใจว่ามันเป็นสัตว์ที่มีพิษ แต่ความเมตตาของเขาก็ทำให้เขาตัดสินใจช่วยเหลือ
ชาวนา
ชาวนา

ข้าไม่อาจปล่อยให้เจ้าเจ็บปวดและตายไปต่อหน้าต่อตาได้

ชาวนากล่าวเบา ๆ ขณะอุ้มงูเห่าขึ้นมาวางไว้ในอ้อมแขนของตนอย่างระมัดระวัง
เมื่อได้รับความอบอุ่น งูเห่าก็เริ่มฟื้นตัว มันรู้สึกถึงชีวิตกลับมาช้า ๆ และทันทีที่มันรู้สึกถึงความแข็งแรงกลับคืนมา งูเห่าก็ตกใจเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองอยู่ในอ้อมแขนของมนุษย์ มันจึงฉกชาวนาทันทีตามสัญชาตญาณของสัตว์ป่า
งูเห่า
งูเห่า

ข้าไม่ได้ตั้งใจ แต่ข้าเพียงแค่ปกป้องตัวเอง

ชาวนาล้มลงด้วยความเจ็บปวด พิษจากงูเห่าค่อย ๆ ซึมเข้าสู่ร่างกายเขา เขาทรุดตัวลงกับพื้นและรู้ตัวว่าความตายใกล้เข้ามา
ชาวนา
ชาวนา

เราไม่น่าช่วยเจ้าสัตว์ร้ายนี้เลย สมควรแล้วที่เราจะต้องตายเพราะมัน

งูเห่ามองชาวนาที่ช่วยชีวิตมันด้วยความสงสาร แต่ก็สายเกินไปแล้วที่จะแก้ไข มันเลื้อยหนีไปสู่ท้องทุ่งโดยทิ้งไว้เพียงร่างที่ไร้ชีวิตของชาวนา
ม้า
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

“แม้เราจะมีความเมตตา แต่เราต้องรู้จักใช้ความเมตตานั้นอย่างรอบคอบ เพราะไม่ใช่ทุกคนหรือทุกสิ่งที่เราช่วยเหลือจะเห็นคุณค่าหรือตอบแทนเรา บางครั้งการช่วยเหลือโดยไม่ระวังก็อาจนำพาอันตรายมาสู่ตัวเราเอง